วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555

เฮอร์คิวลิสกับภารกิจ 12

ไฟล์: Heracles Pio-Clementino Inv252.jpg
เฮอร์คิวลิส

จากบทความก่อนหน้านี้ (หมาเฝ้านรกเซอร์เบอรัส) ผมได้บอกถึงภารกิจทั้ง 12 อย่าง ของวีรบุรุษเฮอร์คิวลิสอย่างรวบรัด บทความนี้เป็นเรามาลงลึกกันครับ กับภารกิจของเฮอร์คิวลิส


ภารกิจ 12 อย่างของเฮอร์คิวลิส
          ก่อนที่เราจะทราบเกี่ยวกับภารกิจ 12 อย่างของเฮอร์คิวลิสนั้น  เราควรรู้จักความสัมพันธ์ของเฮอร์คิว ลิสกับท้าวยูริสเธียสเสียก่อน  ท้าวยูริสเธียสนั้นเป็นบุตรของท้าวสธีเนลัส (Sthenelus) ซึ่งเป็นบุตรอีกคนหนึ่งของเพอร์ซีอัส  เมื่อนับตามศักดิ์ ท้าวยูริสเธียสก็เป็นลูกผู้พี่  ส่วนเฮอร์คิวลิสเป็นลูกผู้น้องในสกุลเดียวกัน  ถ้านับตามอายุ  เฮอร์คิวลิสอ่อนกว่าท้าวยูริสเธียสราวสามเดือน  และการที่เฮอร์คิวลิสต้องยอมอยู่ใต้อำนาจของท้าวยูริสเธียสนั้น  ก็มีมูลเดิมมาแต่ครั้งมารดาของท้าวยูริสเธียสและมารดาของเฮอร์คิวลิสต่างคนต่างมีครรภ์  เพื่อจะทำกับเฮอร์คิวลิสให้สาหัส  เทวีเฮร่าได้ทูลขอให้ซูสสาบานโดยอ้างแม่น้ำสติกซ์เป็นพยานว่า เมื่อถึงคราวก็จะยอมให้บุตรของท้าวสธีเนลัส  มีอำนาจบังคับบัญชาเฮอร์คิวลิสด้วยประการทั้งปวง  ครั้นซูสสาบานแล้ว  เทวีก็หันมาเร่งครรภ์ของมารดาท้าวยูริสเธียสให้คลอดก่อนกำหนด  และหน่วงครรภ์ของมารดาเฮอร์คิวลิสไว้  ยูริสเธียสอยู่ในครรภ์มารดาเพียง 7 เดือน เท่านั้นก็ประสูติออกมาอย่างง่ายดาย  ส่วนเฮอร์คิวลิสนอกจากจะอยู่ในครรภ์มารดาจนถ้วนทศมาสแล้ว  ยังประสูติยากหนักหนา  ดังเล่ามาแล้วอีกด้วยเมื่อท้าวยูริสเธียสรับเฮอร์คิวลิสเข้าไว้ในราชการของท้าวเธอ  โดยเฮอร์คิวลิสพร้มที่จะอาสาทำการทุกอย่างสุดแต่ท้าวเธอจะบัญชา  ท้าวเธอก็สรรแต่งานที่มีอันตรายและยากยิ่งเกินกำลังสามัญชน มอบให้เฮอร์คิวลิสทำรวม 12 อย่าง  แต่เฮอร์คิวลิสก็ไม่ย่อท้อ  คงรับสนองบัญชาของท้าวเธอจนสำเร็จทุกอย่าง  จากเรื่องนี้  ในภาษาอังกฤษจึงมีวลีสำนวนเปรีบยเทียบงานอันใหญ่ยยากยิ่งแสนเข็ญนี้  ในการที่จะปฏิบัติภาระดังกล่าว  เฮอร์คิวลิสได้รับความเมตตาของทวยเทพอวยศัสตราวุธให้พร้อมสรรพ  ด้วยทวยเทพเวทนาว่า เฮอร์คิวลิสต้องรับเคราะห์กรรมโดยความบันดาลของเทวีเฮร่าโดยแท้  ซูสนั้นประทานโล่ให้  เฮอร์เมสให้ดาบ  อพอลโลให้คันธนูพร้อมด้วยลูก  เทวีอธีนาให้หมวก  ส่วนโพไซดอนให้ม้า  แต่อาวุธคู่มือเดิมของเฮอร์คิวลิสนั้นคือ กระบอง

การล่าสิงโตเมืองนีเมีย (The Nemean Lion) 
ภารกิจแรก : การปราบสิงห์แห่งนีเมีย งานอันแรกสุดของเฮอร์คิวลิสได้แก่การปราบสิงห์แห่งนครนีเมีย  สิงห์ตัวนี้ดุร้ายยิ่งกว่าตัวที่เฮอร์คิวลิสเคยฆ่ามาแล้วหลายเท่าและมีหนังเหนียวอยู่คง  ไม่มีอาวุธใดจะทิ่มแทงเป็นบาดแผลได้  เที่ยวเพ่นพ่านราวีผู้คนในราวป่ารอบนครนีเมีย  เฮอร์คิวลิสใช้ตะบองอันมหึมาคู่มือเข้าต่อตีก็ไม่ได้ผล  ในที่สุดต้องใช้มือเปล่าเข้าปล้ำกับมัน  และบีบคอด้วยพลังอันมหาศาลจนมันตายลงคามือ  เช่นเดียวกับตอนบีบคองูเมื่อครั้งยังเด็ก  เมื่อปราบสิงห์แห่งนีเมียสำเร็จแล้ว  เฮอร์คิวลิสก็แบกสิงห์ที่ตายเข้าเมืองไมซินี  เป็นเหตุให้ท้าวยูริสเธียสตื่นตระหนกถึงแก่สั่งว่า ในครั้งต่อไปให้เฮอร์คิวลิสยั้งอยู่แค่ประตูเมืองเพื่อรายงานเท่านั้น  มิให้นำเอาวัตถุพยานเข้าไปถึงในเมืองเป็นอันขาด  ยิ่งกว่านั้น ท้าวเธอยังให้สร้างหอคูหาทองเหลืองมิดชิด  เพื่อท้าวเธอจะได้หลบซ่อน  เผื่อว่าเฮอร์คิวลิสไม่ปฏิบัติตามอีกด้วย 


การปราบ Hydra (The Lernean Hydra) 
ภารกิจที่ 2 : การสังหารนาคไฮดรา งานลำดับถัดไป  ได้แก่การสังหารนาคน้ำมหึมาตัวหนึ่งเรียกว่า ไฮดรา (Hydra) ซึ่งอาศัยอยู่ในบึงของนครอาร์กอส  เป็นอสรพิษร้าย  มีหัวมากมาย  บางแห่งระบุว่า 9 บางแห่งว่า 15 และบ้างก็ว่าถึง 100  แต่ถึงจำนวนอันแท้จริงจะสักเท่าใด  ข้อที่ร้ายยิ่งกว่านี้ก็คือว่า เมื่อหัวใดหัวหนึ่งถูกตัดขาด  จะมีหัวงอกขึ้นใหม่อีกสองหัวเสมอไป  มีวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำให้หัวไฮดราหยุดงอกได้ คือ เมื่อตัดหัวขาดแล้ว  ต้องเอาไฟเผาตอของหัวนั้นเสีย  ในการปฏิบัติภารกิจนี้  เฮอร์คิวลิสได้รับความเอื้อเฟื้อช่วยเหลือจาก ไอโอลอส (Iolaus) บุตรของอิฟฟิคลีสซึ่งเป็นน้องคู่แฝดของตน  เป็นคนเอาเหล็กเผาไฟแดงนาบคอของไฮดราในทันทีที่เฮอร์คิวลิสตัดหัวแต่ละหัวของมันขาด  เมื่อสำเร็จการสังหารนาคไฮดราตามวิธีนี้แล้ว  เฮอร์คิวลิสก็แหวะลำตัวของมันออก  เอาลูกธนูชุบเลือดไฮดราเก็บไว้  อันเป็นการกระทำที่เป็นเหตุให้เฮอร์คิวลิสต้องเสียใจในภายหน้าประการหนึ่ง  ด้วยว่า เลือดไฮดรานั้นมีพิษร้าย  เมื่อลูกธนูที่อาบเลือดไฮดราแล่นไปต้องผู้หนึ่งผู้ใดแม้เพียงแค่ถากๆ ไป  ก็จะทำให้ผู้นั้นเจ็บปวดสาหัส  และถึงแก่ความตายอย่างแน่นอน  โดยไม่มีทางที่จะแก้ไขเยียวยาเลย


การพากวางแดง (The Hind of Ceryneia)
ภารกิจที่ 3 : การจับกวางในป่าซีไรเนีย ณ ลำเนาเขาแห่งป่าซีไรเนีย   ในระหว่างแคว้นอาร์เกเดียกับคัดเคยา  มีกวางแสนงามฝีเท้าจัดอยู่ตัว หนึ่ง  มีเขาเป็นทองคำ  ไม่มีผู้ใดสามารถจะติดตามได้  ทั้งยังเป็นกวางที่เทวีอาร์ทิมิสโปรดปรานหวง แหนยิ่งนัก  ท้าวยูริสเธียสบัญชาให้เฮอร์คิวลิสจับกวางตัวนี้เอาไปให้ดูให้จงได้  เฮอร์คิวลิสเสียเวลา ติดตามกวางตัวนี้โดยไม่ย่อท้อ 1 ปีเต็ม (ท่านฮาเดสบอกว่าไม่ถึง1วันเลย - -") และเมื่อจับได้ในที่ สุด  ก็ถูกเทวีอาร์ทิมิสขัดขวางคุกคามอีก  จนเมื่อเฮอร์คิวลิสทูลแถลงเหตุที่ต้องทำดังนี้ว่า เพื่อล้าง บาปของตนตามเทวองการของเทพ  ในการที่ฆ่าลูกเมียด้วยวิกลจริตและว่าเมื่อเอากวางไปให้ท้าว ยูริสเธียสดูแล้ว  ก็จะปล่อยกลับคืนที่อยู่ของมันตามเดิม  ดังนั้น เทวีจึงอนุญาตให้เฮอร์คิวลิสพากวาง ไป  เป็นอันว่าเฮอร์คิวลิสสำเร็จผลในการประกอบภารกิจที่ 3 ในที่สุด



การปราบสิงห์แห่งนีเมีย
ภารกิจที่ 4 : การจับหมูป่า ณ เขาอีไรแมนธัส  ท้าวยูริสเธียสไม่ยอมให้เฮอร์คิวลิสมีเวลาพักผ่อน  บัญชาให้เฮอร์คิวลิสออกไปประกอบภารกิจที่ 4  งานครั้งนี้คือการออกไปจับหมูป่า ณ เขาอีไรแมนธัส  ซึ่งได้ก่อความประหวั่นพรั่นพรึงหวาดสยองแก่ผู้ คนในละแวกบ้านใกล้เคียงนั้นมาเป็นเวลานาน  เฮอร์คิวลิสออกเดินทางรอนแรมไปอีกครั้งหนึ่ง  ใน ระหว่างทางต้องผ่านตำบลที่อยู่ของพวกเซนทอร์ คือ ครึ่งคนครึ่งม้า  ซึ่งมีไครอน อาจารย์ของเฮอร์คิว ลิสเมื่อยังเยาว์รวมอยู่ด้วย  ในระหว่างพักแรม ณ ตำบลนั้น  เฮอร์คิวลิสเกิดการทะเลาะวิวาทกับพวก เซนทอร์ถึงกับต่อสู้กัน  ถึงแม้ว่าจะต้องตกที่นั่งถูกรุม  เฮอร์คิวลิสก็ได้อาศัยลูกธนูอาบเลือดไฮดรายิง ขับไล่  ทำให้เซนทอร์ต้องล้มตายเป็นอันมาก  บังเอิญลูกธนูดอกหนึ่งแล่นหลงไปถูกขาของไครอน เข้า  ทำให้ไครอนเจ็บปวดสาหัสนักหนา  เฮอร์คิวลิสเองก็ไม่สามารถจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวด ของอาจารย์ได้  ไครอนทนความเจ็บปวดไม่ไหว  และจะตายก็ไม่ได้  ด้วยตำนานบางแห่งกล่าวว่า  ไครนเป็นอมนุษย์ที่ไม่ตาย  เนื่องจากเป็นบุตรของเทพแซตเทิร์น  ในที่สุดไครอนจึงวอนขอให้ซูส โปรดบันดาลให้ตนตาย  ซูสจึงประสิทธิ์ประสาทให้ไครอนกลายเป็นดาวกลุ่มหนึ่งเรียกว่า ซาจิทาริอัส  (Sagitarius) ประจำอยู่ในราศีธนู  มีรูปเป็นเซนทอร์ถือธนูอยู่ในฟากฟ้าแต่นั้นมา จากนั้นเฮอร์คิวลิสดั้นด้นเดินป่าต่อไปถึงเขาอีไรแมนธัส และติดตามหมูป่าไปโดยไม่ลดละความ พยายาม  ต้องบุกหิมะระหกระเหินเป็นระยะทางไกล  ในที่สุดก็จับหมูป่าได้  แบกเอาเข้าเมืองไมซินี   เป็นเหตุให้ยูริสเธียสตื่นตระหนกหนักหนาถึงกับหลบเข้าซ่อนในคูหาทองเหลืองเป็นเวลาหลายวัน

การทำความสะอาดคอกม้าเมือง Augeias (The Augean Stables clean up)
ภารกิจที่ 5 : การชำระล้างคอกสัตว์ของท้าวออเจอัส  ท้าวออเจอัส (Augeas) กษัตริย์แห่งนครเอลลิส มั่งคั่งด้วยทรัพย์สมบัติ เลี้ยงปศุสัตว์  มีแพะและวัวนับจำนวนถึงสามพัน  ไว้ในคอกใหญ่มหึมา  แต่ไมเคยชำระล้างคอกสัตว์เหล่านั้นเลย  นับเวลาถึง 10 ปี  (บางที่ว่า 30 ปี)  การชำระคอกสัตว์อันโสโครกสุดประมาณนี้คือภารกิจที่ 5 ที่เฮอร์คิวลิสต้องปฏิบัติ  เป็นภาระที่เหลือวิสัยจะทำได้  ยิ่งกว่าการปราบสัตว์ร้ายใดๆ เสียอีก  แต่เฮอร์คิวลิสก็ทำสำเร็จด้วยวิธีการอย่างหนึ่งเมื่อไปถึงนครเอลลิส  เฮอร์คิวลิสได้รับคำมั่นสัญญาของออเจอัสว่า จะให้สัตว์จำนวนหนึ่งเป็นรางวัลตอบแทน  เมื่อชำระคอกสัตว์ได้สำเร็จ  เฮอร์คิวลิสเปลี่ยนทางเดินของน้ำในแม่น้ำแอลฟีสและแม่น้ำฟีเนียส  ปล่อกให้น้ำไหลผ่านคอกสัตว์ที่โสโครกเหล่านั้น  น้ำในแม่น้ำทั้งสองสายก็ชำระล้างบรรดาสิ่งสกปรกปฏิกูลออกหมดในชั่วเวลาวันเดียว  แต่แทนที่จะให้รางวัลตามสัญญา  ท้าวออเจอัสกลับบิดพลิ้วเกี่ยงแก้อย่างโกงๆ ว่า  เฮอร์คิวลิสมิได้ทำงานนี้สำเร็จลุล่วงด้วยน้ำมือของตัวเอง  แม่น้ำต่างหากที่ทำงานนี้ให้ลุล่วง  ฝ่ายบุตรของท้าวออเจอัสไม่เห็นด้วยกับบิดา  ก็กลับถูกขับออกจากนครเฮอร์คิวลิสจึงเข้าราวีตีนครเอลลิสได้  จับท้าวออเจอัสฆ่าเสีย  แล้วสถาปนาบุตรท้าวออเจอัสขึ้นครองราชย์แทนสืบไปเนื่องจากความโสโครก ปฏิกูลของคอกสัตว์สัตว์ท้าวออเจอัส  ตามตำนานเรื่องนี้เป็นภาวะอันเหลือบ่ากว่าแรงที่จะขัดสีได้     


การขับไล่นกที่เมือง Stymphalos (The Stymphalian Birds)
ภารกิจที่ 6 : การทำลายนกกินคน ในหุบเขาแห่งหนึ่งเรียกว่า หุบเขาสทิมเฟลัส มีนกชนิดหนึ่งอาศัยอยู่  เป็นนกยักษ์ดุร้าย  กินสัตว์และมนุษย์เป็นอาหาร มีชื่อเรียกตามหุบเขาว่า นกสทิมเฟเลียน (Stymphalianbird)  การทำลายนกชนิดนี้ตกเป็นภารกิจที่ 6 ของเฮอร์คิวลิส  นกเหล่านี้ซ่อนตัวอยู่ในที่เร้นลับ  เฮอร์คิวลิสไม่สามารถหาวิธีล่อให้มันออกมาได้  ร้อนถึงเทวีอธีนามอบลูกกระพรวนทองเหลืองให้สั่น  เสียงของลูกกระพรวนทำให้นกบินกรูออกจากที่ซ่อนทั้งฝูง  เฮอร์คิวลิสก็ยิงธนูถูกนกตายหมด  นกสทิมเฟเลียนจึงสูญพันธุ์ตั้งแต่นั้นมา


การปราบวัวกระทิงเมือง Crete (The Cretan Bull) 
ภารกิจที่ 7 :  การปราบวัวกระทิงเมือง Crete (The Cretan Bull)  งานนี้นับเป็นงานง่าย ที่ได้รับมอบหมาย หลังจากที่ Herakles ได้จัดการกับงานที่ยุ่งยาก และซับซ้อนกว่า ดังเช่นการขับไล่นก ออกจากเมืองสติมฟาลอสวัวตัวนี้เป็นวัวที่ Poseidon (Neptune) เทพแห่งท้องทะเล ได้ให้ไมนอส (Minos) กษัตริย์ที่เกิดจาก Zeus (Jupiter) และยูโรปา (Europa) มีนิทานที่เกี่ยวข้องกับวัวตัวนี้ ในหลายเรื่องด้วยกัน ดังจะนำมาเสนอต่อไป ในนิทานดาวกลุ่มดาววัว (Taurus) และนิทานวีรบุรุษ Theseus เมื่อ Herakles ไปถึงก็ปล้ำกับวัวอยู่ยกหนึ่ง จนสามารถเอาชนะวัวได้ และบังคับให้ตามลงเรือกลับไปหายูริสทูส ยูริสทูสได้ปล่อยให้วัวกระทิงเป็นอิสระ วัวตัวดังกล่าวก็พเนจรไปทั่วกรีซ และจบชีวิตที่เมืองมาราธอน (Marathon) ซึ่งจะกล่าวในภายหลัง


การพาม้ากินคนของ Diomedes กลับมา (The Man-Eating Horses of Diomedes)
ภารกิจที่ 8 : การพาม้ากินคนของ Diomedes กลับมา (The Man-Eating Horses of Diomedes) เมื่อจบงานวัวกระทิง ยูริสทูสก็ส่ง Herakles ให้ไปพาเอาม้ากินคนของไดโอมิดิส (Diomedes กษัตริย์ชนเผ่า Bistones) กลับมาที่มีเซเนีย นักเขียนหลายคนที่เล่าถึงเรื่องนี้แตกต่างกันออกไปอะพอลโลโดรุส (Apollodorus) เล่าว่า Herakles ไปกลับกลุ่มชายหนุ่มอาสาสมัคร เมื่อเอาชนะบรรดาคนดูแลม้า และบังคับม้าไปถึงทะเล ไดโอมิดิสก็พาบรรดาทหารตามมาทัน Herakles ก็ปล่อยให้เด็กหนุ่มชื่อ Abderos ดูแลม้า ในขณะที่ Herakles ไปต่อสู้กับทหาร ซึ่งม้าฝูงนี้ มีกำลังเป็นต่อหนุ่มน้อยผู้เคราะห์ร้าย เมื่อฝูงม้าทำร้ายชายหนุ่มแล้วก็ลาก Aberos ไปรอบ ๆ จนกระทั่งชายหนุ่มเสียชีวิต เมื่อ Herakles เอาชนะชาว Bistones และฆ่าไดโอมิดิสได้ ก็ตั้งเมืองชื่อ Abdera เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่ Abderos ส่วน ยูริพิดิส (Euripides) กวีอีกคนหนึ่งเล่าว่า Herakles ได้ทำงานนี้โดยลำพัง ม้ากินคนพวกนี้ เป็นม้าเทียมรถของไดโอมิดิส และ Herakles ได้จับม้าเหล่านี้ ลากรถกลับมามีเซเนีย หลังจากที่ภาระกิจเสร็จสิ้น ยูริสทูสก็ปล่อยม้าเป็นอิสระ บรรดาม้าก็พเนจรไปเรื่อย จนกระทั่งถึงเขาโอลิมปุส ที่สถิตย์ของทวยเทพ และถูกสัตว์ป่ากินเป็นอาหาร


การนำเอาเข็มขัดของ Hippolyte มา (Hippolyte's Belt) 
ภารกิจที่ 9 :  การนำเอาเข็มขัดของ Hippolyte มา (Hippolyte's Belt)  งานที่เก้านี้ยูริสทูสให้ Herakles ไปนำเอาเข็มขัดของฮิปโปลิที (Hippolyte) กลับมา เพื่อเป็นของขวัญให้ลูกสาว เข็มขัดนี้ เป็นเข็มขัดที่ฮิปโปลิที ได้รับประทานมาจาก Ares (Mars) เทพแห่งการสงคราม เพราะเธอเป็นนักรบที่ดีที่สุด ของชนเผ่าอเมซอน ฮิปโปลิทีเป็นหัวหน้าชนเผ่านี้ ซึ่งมีอยู่แต่ผู้หญิง เมื่อใดที่มีการให้กำเนิดทารก จะเก็บไว้เฉพาะเด็กผู้หญิง และเลี้ยงดูให้เป็นนักรบ ซึ่งเข็มขัดนี้ ฮิปโปลิทีใส่พาดอก และใช้ห้อยดาบ และอาวุธอื่น ๆ เมื่อ Herakles ล่องเรือไปถึง ฮิปโปลิทีได้ออกมาต้อนรับ และสัญญาว่าจะให้เข็มขัดแก่ Herakles Hera ก็จำแลงกายมาเป็นนักรบอเมซอน และสร้างข่าวลือว่า Herakles จะมาพาตัวฮิปโปลิทีไป เมื่อ Herakles เห็นบรรดานักรบอเมซอน ใส่เกราะ และลงมือบุก ก็ลงมือฆ่าฮิปโปลิทีในทันที โดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง เพราะคิดว่าฮิปโปลิที มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ และไม่ลืมเอาเข็มขัดไปด้วย เกิดการต่อสู้ขนานใหญ่ขึ้น จนกระทั่ง Herakles ถอยลงเรือได้ เขาก็แวะไปที่เมืองทรอย (Troy) และบ่ายหัวเรือมุ่งหน้ากลับเมซีเนีย และมอบเข็มขัดให้ยูริสทูส


การพาเอาคอกปศุสัตว์ของ Geryon กลับมา (The Cattle of Geryon) 
ภารกิจที่ 10 :  การพาเอาคอกปศุสัตว์ของ Geryon กลับมา (The Cattle of Geryon)  งานนี้เป็นงานหินเอาการ Herakles ต้องเดินทางไปจนสุดขอบฟ้า เพื่อจะไปหา Geryon นับเป็นสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่ง เป็นบุตรของ Chrysaor และ Callirrhoe ซึ่ง Chrysaor เกิดมาจากร่างกายของเมดูซ่า หลังจากที่ถูกเพอซิอุสตัดหัว ส่วน Callirrhoe เป็นธิดาของยักษ์ใหญ่ (Titans) สองตนคือ โอเชียนัส (Oceanus) และ ทีทิส (Tethys) เชื้อสายที่แปลกประหลาด จึงให้กำเนิดบุตรที่ไม่ธรรมดา มีสามหัว และขาสามคู่ ที่เชื่อมกันที่เอว อาศัยอยู่ที่เกาะอิริเทีย (Erythia) มีสุนัขสองหัวชื่อ Orthus ซึ่งเป็นพี่น้องกับเซเบรุส (Ceberus) เฝ้าฝูงสัตว์กับคนดูแล การเดินทางของ Herakles ครั้งนี้ ได้ตั้งชื่อสถานที่ขึ้นมากมาย ระหว่างที่ล่องเรือผ่าน Herakles ได้ผ่าเขาออกเป็นสองส่วน เรียกว่า ประตูรั้วของเฮอร์คิวลิส ส่วนช่องแคบที่ผ่านระหว่างเขา ปัจจุบันเรียกว่า ช่องแคบจิบรอลตา (Gibralta) อยู่ระหว่างประเทศสเปน และโมรอคโค เป็นประตูกั้น ระหว่างทะเลเมดิเตอเรเนียน (Mediterranean sea) ไปสู่มหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ Herakles ไม่ได้ใช้เรือทั่วไป แต่ใช้ถ้วยที่พระอาทิตย์มอบให้เขา ด้วยความชื่นชม Herakles สามารถเอาชนะคนเฝ้า และสุนัขสองหัวได้อย่างง่ายดาย และได้ต่อสู้กับ Geryon ระหว่างที่เขากำลังพาฝูงสัตว์หนี และท้ายที่สุด Herakles ยิง Geryon ตายด้วยลูกธนู งานการขโมยฝูงสัตว์ไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อเทียบกับความลำบาก ในการพากลับไปกรีซ บุตรของ Poseidon (Neptune) พยายามขโมยสัตว์ฝูงนี้ แล้วก็ปราชัยที่ Rhegium วัวตัวหนึ่งหลุด และกระโดลงทะเลว่ายน้ำ ไปเกาะซิซิลี และหนีไปประเทศข้างเคียง เนื่องจากศัพท์ดั้งเดิมของคำว่าวัว คือ Italus ดังนั้นประเทศนั้น จึงถูกเรียกขานว่า ประเทศอิตาลี (Italy) วัวตัวดังกล่าว หลุดไปอยู่ในมือของกษัตริย์ Eryx ลูกอีกคนของ Poseidon Herakles ต้องเล่นมวยปล้ำ จนชนะกษัตริย์ Eryx และฆ่ากษัตริย์ตาย แล้วจึงมานำเอาวัวที่ฝากไว้กับ Hephaestus กลับไปด้วย ก่อนถึงกรีซ Hera ก็ส่งเหลือบมา ทำให้ฝูงวัวแตกตื่น กระจัดกระจาย กว่า Herakles จะรวบรวมกลับมาได้หมด ก็ทำเอาเหนื่อย เพราะเขาต้องตระเวนไปทั่วแคว้น เมื่อรวบรวมฝูงวัวกลับมาได้ ก็นำมาส่งให้ยูริสทูสนำไปบูชาเทพี Hera


การนำเอาแอปเปิลของ Hesperides (The Apples of the Hesperides) 
ภารกิจที่ 11 :  การนำเอาแอปเปิลของ Hesperides (The Apples of the Hesperides) Herakles  ยังคงรับคำสั่งจากยูริสทูสต่อไป ถึงแม้จะทำงานมาครบ 10 งานตามที่ Oracle กำหนด แต่ยูริสทูสไม่นับงานปราบไฮดรา และงานทำความสะอาดคอกปศุสัตว์ ไม่นับเป็นงานที่ Oracle สั่งให้ทำการตามหาแอปเปิ้ลไม่ใช่เรื่องยากโดยตัวมันเอง แต่แอปเปิ้ลที่ว่านี้ เป็นแอปเปิ้ลที่ Hera ประทานให้ Zeus เป็นของขวัญแต่งงาน และเฮราย่อมไม่ยอมให้ Herakles แต่โดยดีแน่ แอปเปิ้ลอยู่ในสวนที่ขอบโลกทางเหนือ มีมังกรร้อยหัวเฝ้าอยู่กับนางไม้ชื่อเฮสพิริดส (Hesperides) ซึ่งเป็นลูกสาวของแอตลาส (Atlas) ยักษ์ใหญ่ (Titans) ตนที่แบกโลกและท้องฟ้าไว้ที่ไหล่ปัญหาแรกของ Herakles คือเขาไม่รู้ว่าสวนอยู่ที่ไหน เขาเดินทางรอนแรมไปถึง ลิเบีย อียิปต์ อราเบีย เอเชีย และมีการผจญภัยเป็นระยะ ๆ ระหว่างทาง เขาทราบว่าสวนตั้งอยู่ที่ไหน จากการเอาชนะเทพแห่งทะเล เนริอุส (Nereus) ระหว่างทาง เขาปลดปล่อยโปรมิธิอุส ซึ่งถูกทัณฑกรรมจากสวรรค์ ทำให้เขาได้ทราบว่า ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเอาแอปเปิ้ลด้วยตัวเอง แต่ไปขอให้แอตลาสไปนำมาให้ ซึ่งแอตลาสก็ยินดีทำให้แต่โดยดี เพราะเขาจะได้พักการแบกโลก และท้องฟ้าชั่วขณะ โดยที่ Herakles รับทำงานแทนระหว่างที่แอตลาสไม่อยู่  เมื่อแอตลาสได้แอปเปิ้ลกลับมา ก็ไม่อยากกลับไปแบกโลกอีก จึงอาสาจะนำแอปเปิ้ลไปให้ยูริสทูสเอง Herakles ก็รับปากโดยดี แต่ก่อนที่แอตลาสจะไป Herakle ก็ขอเวลาหาที่รองบนไหล่ เพื่อให้เขาสามารถแบกรับน้ำหนักของโลก และท้องฟ้าได้ เมื่อ Atlas วางแอปเปิ้ลลง และแบกโลกต่อ Herakles ก็หยิบแอปเปิ้ล และวิ่งหนีไป แต่เนื่องจากแอปเปิ้ลดังกล่าว เป็นของเทพ เมื่อยูริสทูสจึงครอบครองไม่ได้นาน ยูรสทูสต้องคืนให้เทพอธีนา (Athena) เพื่อนำไปเก็บไว้ ที่สวนขอบโลกทางเหนือตามเดิม


การพาเอา Keberos (Ceberus) กลับมาเป็นๆ (Ceberus)
ภารกิจที่ 12 :  การพาเอา Keberos (Ceberus) กลับมาเป็น ๆ (Ceberus)  งานนี้เป็นงานที่หินที่สุด ในบรรดา 12 งานที่ Herakles ได้รับมอบหมาย ยูริสทูสได้สั่งให้ Herakles เดินทางไปยมโลก และพาเอาตัวสัตว์ประหลาดชื่อ Keberos (Ceberus) กลับมา Keberos (Ceberus) เป็นสัตว์ประหลาดดุร้าย ที่ทำหน้าที่เฝ้าปากทางเข้ายมโลก เมืองของเฮดีส [Hades (Pluto)] คอยกั้นไม่ให้สิ่งมีชีวิต เข้าไปในโลกหลังความตายได้ Keberos (Ceberus) เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างประหลาด Apollodorus บรรยายว่า Keberos (Ceberus) มีหัวเป็นสุนัขสามหัว มีหางเป็นมังกรหรืองู และมีหัวงูปกคลุมทั้งหลัง ขณะที่ Hesiod บอกว่า Keberos มีหัว 50 หัวและกินเนื้อสด ๆ เป็นอาหารKeberos เกิดจาก Echinda (สัตว์ประหลาดครึ่งคนครึ่งงู) กับ Typhon (ยักษ์ที่หายใจเป็นไฟร่างกายปกคลุมด้วยมังกรและงู) มีพี่น้องท้องเดียวกันอีก 3 ตัวได้แก่ Orthus Hydra และ Chimera โดยที่ Orthus และ Chimera ได้ให้กำเนิดสิงโตเมืองนีเมีย และสฟิงซ์ (Sphinx) จากงานที่ได้รับมอบหมาย Herakles ฆ่า Orthus ตอนไปนำปศุสัตว์ของ Geryon, ฝัง Hydra ที่เลอนา และรัดคอสิงห์โตเมืองนีเมีย Herakles เข้าร่วมกลุ่ม Eleusinian เพื่อสืบว่า ต้องทำอย่างไรจึงจะลงไปยมโลกได้ โดยที่ยังไม่ตาย จาก Eleusis ผู้นับถือ Demeter เทพีแห่งการเพาะปลูก กับ Persephone ลูกสาวของ Demeter และภริยาของ Hades (Pluto) Herakles เดินทางไป Taenarum ใน Laconia และเดินเข้าถ้ำปากทางสู่ยมโลก โดยที่ Herakles ก็พบอุปสรรค และต้องต่อสู้ตลอดทาง เมื่อเฮดีสอนุญาตให้ Herakles พาเซเบรุสไปได้ แต่มีข้อแม้ว่า จะใช้อาวุธกับเซเบรุสไม่ได้ ซึ่งเมื่อ Herakles ออกเดินทางไปที่ประตูทางเข้าด้าน Acheron เป็นหนึ่งในแม่น้ำทั้งห้าของยมโลก และรัดเซเบรุสด้วยมือเปล่าว แม้จะถูกมังกรที่หางของเซเบรุสกัด เขาก็ไม่ใส่ใจ เมื่อเซเบรุสพ่ายแพ้แก่ Herakles ก็ถูกพาไปส่งให้ยูริสทูส เมื่อหมดงาน Herakles ก็ส่งเซเบรุสกลับไปเฝ้าปากทางยมโลกเหมือนเดิม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น