มนุษย์ต่างดาว |
บันทึกลึกลับ มนุษย์ต่างดาวบุกโลก.. หลักฐาน ความจริง แต่ไร้ตัวตน
หากจะเริ่มบทสนนทนากับใครสักคน ถึงเรื่องมนุษย์ต่างดาว หรือบรรดาเหล่านอกโลกทั้งหลาย สำหรับบางคน ถึงกับเบือนหน้าหนี มองเป็นเรื่องไร้สาระ งมงาย เพราะด้วยความที่ไม่มีหลักฐานใดๆที่จะพิสูจน์ได้ว่า เหล่ามนุษย์ต่างดาว มีจริงหรือไม่ จนกว่าจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง
แต่ก็ถือเป็นเรื่องยากเหลือเกิน ที่จะเห็นมนุษย์ต่างดาว ออกมาโชว์ตัว ให้เห็นตามสื่อ สนทนากันแบบซึ่งหน้า มีเพียงแต่ร่องรอยและหลักฐาน และคำกล่าวอ้าง ที่อ้างว่าพวกมันกำลังลงมาเยือนบนผิวโลกมนุษย์มาโดยตลอด อย่างเช่นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา กองทัพทหารของนิวซีแลนด์ ได้เปิดเผยเอกสารที่ระบุว่ามีการพบมนุษย์ต่างดาว วัตถุลึกลับ หรือ จานยูเอฟโอ ตลอดระยะเวลากว่า50ปี นับตั้งแต่ปี 1954 ถึง 2009 แถมยังมีภาพสเก็ตช์จานบิน รายละเอียดเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวซึ่งสวมหน้ากากฟาโรห์ รวมทั้งตัวอย่างภาษาเขียนจากนอกโลกด้วย
ในความคิดและจินตนาการของมนุษย์มักคิกว่ามนุษย์ต่างดาวมักมากับจานบินเสมอ |
นานมาแล้ว ความลึกลับ ที่มาเยือนแบบไม่เป็นทางการของพวกมัน ทำเอาเหล่ามนุษย์ฉงน และอยากรู้อยากเห็น หน้าตา รูปร่าง ที่แท้จริง ซึ่งระหว่างช่วง 2 ปีมานี้ เริ่มมีสัญญาณให้เห็นว่า พวกมันกำลังบุกโลกเข้าแล้ว เพราะมีหลักฐานมากมายที่ระบุว่า พวกมัน มากับยานชนิดที่มีความเร็วแบบล่องหน
เมื่อเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมการบิน ไซบีเรีย อ้างว่า เขาได้ยินเสียงของวัตถุลึกลับ ที่มีเสียงมนุษย์ต่างดาวเป็นเสียงผู้หญิง แต่สัญญาณดังกล่าวเป็นภาษาที่ไม่สามารถเข้าใจได้ บนหน้าจอควบคุม เหนือพื้นที่ เมืองยาคุตสค์ ประเทศรัสเซีย ซึ่งวัตถุดังกล่าวมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมากถึง 6,000 ไมล์ต่อชั่วโมง และเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางวัตถุอื่นๆที่เห็นได้ว่ามีการเคลื่อนตัวช้ากว่ามาก
ที่ นครเยรูซาเล็ม มีผู้ที่สามารถบันทึกภาพวัตถุประหลาด เป็นแสงไฟคล้ายลูกบอล เหนือแท่นบูชาของศาสนสถานของชาวอิสราเอล มีการเคลื่อนไหวเหนืออากาศเป็นจังหวะ เหนือศาสนสถาน ก่อนที่มันจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
ภาพนี้จากรัสเซีย |
ไม่เพียงแต่เมืองนอกเมืองนา ประเทศไทยก็มีการอ้างว่า พบเหล่าผู้มาเยือน ปรากฎให้เห็น อันที่จริงแล้วมันอาจไม่อยากปรากฎตัวให้เห็น แต่เผอิญมีผู้สามารถบันทึกภาพได้
พนักงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแห่งหนึ่งได้ขึ้นไปชมธรรมชาติใกล้กับสถานปฏิบัติธรรมที่วัดถ้ำพระภูวัว อ.เซกา จ.หนองคาย บันทึกวิดีโอภาพความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศในบริเวณนั้นเก็บไว้ให้เพื่อนๆชม แต่เมื่อนำคลิปกลับมาดูในจอขนาดใหญ่อีกครั้ง ก็พบมีวัตถุลึกลับบินผ่านไปอย่างรวดเร็ว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า หากเป็นเครื่องบินรบหรือเฮลิคอปเตอร์ ก็ไม่น่าจะบินเร็วหรือเงียบได้ขนาดนั้น โดยได้ทดสอบด้วยการนำกล้องตัวเดียวกันไปถ่ายภาพเฮลิคอปเตอร์ ปรากฏว่าใบพัดที่หมุนเร็วก็ยังช้ากว่าวัตถุลึกลับที่ปรากฎในคลิป
เป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้าง ในหมู่นักท่องอินเตอร์เน็ต และบรรดาเหล่าจับผิดทั้งหลาย บางคนเชื่อว่า วีดิโอที่บันทึกวัตถุลึกลับได้ เกิดจากการตัดต่อ สร้างขึ้นมา เพราะแน่นอนว่า ไม่มีใครการันตีได้ว่า ภาพเหล่านั้น เป็นภาพเหล่ามนุษย์ต่างดาวจริงๆ ไม่มีสิ่งยืนยันชัดเจน ฉะนั้นเรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับเป็นวิจารณญาณของแต่ละคน
มนุษย์ต่างดาว (Alien) เป็นสิ่งที่เชื่อว่าอาจมีอยู่จริง |
ล่าสุด มีการพบซากของมนุษย์ต่างดาว หรือเอเลี่ยน นอนตายในสภาพขาข้างขวาขาด ร่างกายผอมแห้ง มีรูโหว่ที่ปากและจมูกที่กองหิมะ แคว้นอีร์คุตสค์ ทางตอนใต้ของไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย ซึ่งแท้จริงแล้ว มนุษย์ต่างดาวมีรูปร่างแบบนี้ จริงหรือ???
จะว่าไปแล้ว ความเชื่อในเรื่องของมนุษย์ต่างดาว มีมาตั้งแต่โบราณนานปี ตามปฏิทิน มีการทำนายไว้ว่า วันที่ 21 ธันวาคม ปี2012 (21/12/2012) ซึ่งเรียกว่า “วันสิ้นโลก” พวกมันจะออกมายึดครองโลก ทำเอานักล่าเอเลี่ยน หรือผู้ที่ตามหายูเอฟโอ(UFO) ที่เชื่อว่า พวกมนุษย์
ต่างดาว อาศัยอยู่บนภูเขาสูง4 พันฟุต เหนือหมู่บ้านบูการัช ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส บุกไปหมู่บ้านดังกล่าวเพื่อตามล่าหาตัวพวกมัน ก่อนที่จะถูกยึดครอง
จะเกิดอะไรขึ้น หาก มนุษย์ต่างดาว เข้าบุกยึดครองโลกเข้าแล้วจริงๆ???
หนังสือพิมพ์ลงข่าวจานบินตกเมื่อปี พ.ศ. 2490 |
เป็นที่น่าสนใจทีเดียวว่า พวกมันจะมาในรูปแบบไหน มาดี หรือมาร้าย แต่นายสตีเฟ่น ฮ๊อวค์กิ้งนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ก็ออกมาเตือนด้วยว่าเอเลี่ยน มันไม่ได้เป็นมิตรกับมวลมนุษย์อย่างที่ทุกคนเข้าใจ และโลกอาจต้องได้รับภัยพิบัติอย่างมหาศาล จึงเกิดเรื่องฮือฮาขึ้น เมื่อ นางมาซลัน โอ๊ตแมน วัย 49 ปี ชาวมาเลเซีย หัวหน้าสำนักงานยูเอ็นภารกิจด้านกิจการอวกาศ(Unoosa) ได้รับเลือกแต่งตั้งจากสหประชาชาติ ให้เป็นว่าที่ ทูตสันติภาพอวกาศ เพื่อทำการเจรจากับมนุษย์ต่างดาว
ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นเรื่องของความเชื่อที่ต้องใช้วิจารณญาณ สิ่งที่ทำได้ ณ ตอนนี้ของชาวโลก ก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องตื่นกลัว หรือ อย่างไรกันดี เพราะการมาแบบหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ ของพวกมัน ต้องการอะไรกันแน่ แล้วหลักฐานที่มีการอ้างว่ามีการพบเห็น ก็ยังไม่มีหลักฐานใด ได้พิสูจน์ชัดเจนตัวเป็นๆ ของพวกมัน ฉะนั้น ยังคงเป็นปริศนาที่รอคำตอบ จากผู้มาเยือน แต่ผู้เขียนก็หวังว่า หากมันบุกมาเยือนเมืองไทย อย่างน้อยทูตสันติภาพอวกาศคงจะได้ปฏิบัติหน้าที่ ในการเจรจาเพื่อสันติภาพระหว่างมนุษย์กับ ..มนุษย์ต่างดาว ชนิดที่ตัวเป็นๆออกสื่อบ้างเสียที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น